Chasing Time English คืออะไร ?
Chasing Time English คือแพลตฟอร์มเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่ใช้ซีรี่ย์เป็นสื่อในการเรียนรู้ ทั้งละคร โรแมนติก ตลก และระทึกขวัญ มาเป็นสื่อการสอนควบคู่ไปกับกิจกรรมแบบ Interactive ช่วยให้น้องๆได้ฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษครบทุกด้าน ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก ไม่น่าเบื่อ เข้าใจง่าย และมีประสิทธิภาพกว่าการเรียนรูปแบบเดิมๆ
ทำไมต้องเรียน Chasing Time English ?
– ไม่ใช่การอ่านและท่องจำแบบเดิมๆ แต่น้องๆจะได้เรียนรู้การใช้ภาษาในสถานการณ์จริง ช่วยให้เข้าใจบริบทการใช้ภาษา และจดจำได้ง่ายขึ้น
– เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบ Interactive น้องๆสามารถพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนคนอื่นๆภายในแพลตฟอร์มได้
– เนื้อหาตรงระดับความรู้ ไม่ต้องกังวลว่าจะยากเกินไป เพราะมีระบบการจัดระดับความยาก–ง่าย ให้เหมาะสมกับน้องๆแต่ละคน
– ได้เรียนรู้บทสนทนาที่เป็นธรรมชาติ ฝึกฟังสำเนียง และเรียนรู้การใช้ภาษาแบบที่เจ้าของภาษาใช้กันจริง
– มีกิจกรรมเสริมทักษะมากมาย ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างรอบด้าน และมีซีรี่ย์ให้เลือกหลากหลายแนวตามความขื่นชอบของน้องๆ
Chasing Time English เหมาะกับใครบ้าง ?
– นักเรียน นักศึกษา ที่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษ ทั้งเพื่อการเรียนและการสอบ
– วัยทำงาน ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน สื่อสารกับเพื่อนร่วมงานต่างชาติ หรือเจรจาทางธุรกิจ
– บุคคลทั่วไป ทุกคนที่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การท่องเที่ยว หรือการศึกษาต่อ
นอกจาก Chasing Time English ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านแล้ว น้องๆยังสามารถนำไปต่อยอดกับการเรียนและการสอบ IELTS, GED และ Digital SAT ได้อีกด้วย
IELTS
การฟัง (Listening) Chasing Time English ช่วยฝึกทักษะการฟังอย่างมีสมาธิ และจับใจความสำคัญ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการสอบที่ให้ฟังเพียงรอบเดียว
การอ่าน (Reading) เทคนิคการอ่านเร็ว และการจับใจความสำคัญ สามารถนำมาปรับใช้กับ IELTS Reading ซึ่งมีบทความยาว และต้องทำความเข้าใจในเวลาจำกัด
การเขียน (Writing) Chasing Time English เน้นการจัดระเบียบความคิด การเขียนอย่างตรงประเด็นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการเขียน Essay ใน IELTS Writing
การพูด (Speaking) Chasing Time English ช่วยพัฒนาการฝึกคิด และเรียบเรียงความคิดอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น ได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น
GED
Chasing Time English ช่วยพัฒนาทักษะการอ่าน และการเขียนในพาร์ทข้อสอบ Reasoning Through Language Arts (RLA) การฝึกอ่านจับใจความ และการเขียนอย่างมีโครงสร้าง ตามเทคนิค Chasing Time English จะช่วยให้ทำข้อสอบได้ดีขึ้น
Digital SAT
การอ่านและการเขียน (Reading and Writing) Chasing Time English ช่วยพัฒนาเทคนิคการอ่านเร็วและการจับใจความ มีประโยชน์อย่างมากในการทำข้อสอบ Digital SAT ซึ่งเป็นแบบ Adaptive ซึ่งต้องทำความเข้าใจบทความและตอบคำถามในเวลาจำกัด
คณิตศาสตร์ (Math) การบริหารเวลา และการจัดลำดับความสำคัญตามเทคนิค Chasing Time English ช่วยให้ทำข้อสอบคณิตศาสตร์ ที่มีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รูปแบบการเรียน
น้องๆสามารถเลือกซีรี่ย์ที่สนใจได้เองตามระดับภาษาหรือความชื่นชอบ โดยแต่ละซีรี่ย์จะมี 4-6 ตอน ความยาวตอนละ 4-6 นาที โดยภายในแพลตฟอร์ม Chasing Time English ยังมีกิจกรรมเสริมทักษะต่างๆ ให้ทำอีกประมาณ 20-30 ชั่วโมง
“ก่อนรับชม“ จะมีการแนะนำคำศัพท์ที่สำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียน
“ระหว่างรับชม“ ผู้เรียนสามารถหยุด ย้อนกลับ หรือเล่นซ้ำได้ตามต้องการ
“หลังจบการรับชม“ จะมีแบบฝึกหัดให้ทดลองทำ จากเนื้อหาภายในเรื่อง
ซีรี่ย์แต่ละเรื่องของ Chasing Time English มีเนื้อหาครอบคลุมผู้เรียนทุกระดับ โดยแบ่งตามระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษในมาตรฐาน CEFR ตั้งแต่ระดับ A2 ถึง C1
- ระดับ A2 (Elementary – พื้นฐาน) เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- ระดับ B1 (Intermediate – ปานกลาง)
- ระดับ B2 (Upper Intermediate – สูงกว่าปานกลาง)
- ระดับ C1 (Advanced – สูง) เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษในระดับสูง
ตัวอย่างซีรี่ย์แบ่งตามระดับทักษะทางภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับ A2 ถึง C1
ตัวอย่างซีรี่ย์ภายในแพลตฟอร์ม Chasing Time English มีให้เลือกชม เช่น The Caldwell Diaries season 1 และ 2, Sam, Fortune Blue, The Emerald, Skippers Pass, Days Crossing, My name is Lucky, Fortune Gold, The Last Hustle, Adrift และอื่นๆอีกมากมาย
เรียน Chasing Time English กับ Gimme Eng จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก และไม่น่าเบื่ออีกต่อไป พร้อมกับการพัฒนาทักษะทางภาษาที่รวดเร็วและเป็นธรรมชาติกว่าการเรียนแบบเดิมๆ
วิธีการใช้งาน Chasing Time English
1. ลงชื่อเข้าใช้ด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่ learn.chasingtimeenglish.com
2. Tab Active จะแสดงคอร์สที่ได้เริ่มเรียนแล้ว หรือคลิก Continue course เพื่อเรียนคอร์สต่อไป (ครั้งแรกที่เข้าสู่ระบบ หน้านี้จะว่างเปล่า)
3. แท็บ All Courses จะแสดงคอร์สที่สามารถเรียนได้ทั้งหมด
4. เลือกคอร์สที่ต้องการเรียน (คลิก Start course เพื่อเริ่มคอร์สใหม่ หรือคลิก Continue course เพื่อเรียนคอร์สที่กำลังเรียนอยู่)
5. ในหน้าคอร์สที่เลือกเรียน ในด้านซ่ายมือจะมีเมนูสำหรับการเข้าถึงหมวดหมู่การเรียนรู้แต่ละหมวดอย่างรวดเร็ว
6. เมื่อเรียนจบแล้ว ให้คลิกปุ่ม Mark as complete แล้วคลิก Next
7. ด้านบนของหน้าจอ สามารถติดตามความคืบหน้าของคอร์สทั้งหมดได้
8. สามารถพูดคุย แสดงความเห็นกับผู้เรียนคนอื่นๆได้ ในช่อง Comments ด้านล่างของแต่ละกิจกรรม
